03 มีนาคม 2564
.
หลายคนได้เห็นความสวยงามของ ‘เสื้อย้อมคราม’ รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่นจาก LCFC x atmos คอลเลคชั่นส่งท้ายปี 2020 กับลวดลายจากเทคนิค ม้วน มัด ย้อม ที่ซับซ้อน ถือเป็นการยกระดับภูมิปัญญาไทยไปสู่งานแฟชั่นระดับสากล และยังได้วางขายไปถึง 7 ประเทศทั่วโลก! อีกทั้งเรายังเคยประทับใจกับคอลเลคชั่นของที่ระลึกประจำสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ‘INDIGO’ ที่วางจำหน่ายในประเทศอังกฤษ กับสินค้าที่มีเสน่ห์ด้วยดีไซน์ ผสมผสานกับภูมิปัญญา ‘ผ้าย้อมคราม’ จากสกลนคร ที่สร้างความประทับใจให้ผู้คนไปทั่วโลก
.
กว่าจะเป็น ‘ผ้าย้อมคราม’ ภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยที่ก้าวไกลสู่ระดับสากลแบบนี้ มีขั้นตอนอย่างไร?
.
เริ่มจากเก็บใบครามสดจากต้น นำมาใส่ถังบ่ม เติมน้ำฝนให้ท่วม แช่ทิ้งไว้ 1-2 วัน นำน้ำปูนแดงหรือปูนขาวมาผสมเข้าไป กวนจนได้สีที่เข้มข้น เนื้อนวลเหมือนครีมเค้กเรียกว่า “ครามเปียก” แล้วจึงนำเนื้อครามไป “ก่อหม้อ” เพื่อสกัดจุลินทรีย์ออกมา ซึ่งแต่ละชุมชนจะมีสูตรในการย้อมที่ต่างกันไป สำหรับกลุ่มทอผ้าย้อมครามบ้านนาขาม จ. สกลนคร จะนำเนื้อครามมาผสมกับน้ำขี้เถ้า น้ำตาลทราย น้ำมะขามเปียก และกล้วย ทำให้หม้อครามดูดความหวาน จากนั้นหมักบ่ม 3-5 วัน จนได้เป็นสีเหลืองสุกพร้อมย้อม แล้วเริ่มย้อมด้วยการนำผ้ามามัด ม้วน จุ่มในสีดิบ เมื่อเจอกับอากาศจึงกลายเป็นสีคราม ลวดลายสวยงามตามการออกแบบ
.
เพราะความตั้งใจของคนไทย ความประณีตและกระบวนการที่ละเมียดละไม เมื่อผสมผสานเข้ากับการออกแบบที่ทันสมัย ทำให้สินค้าชุมชนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” สนับสนุนศักยภาพของคนไทยให้ก้าวไกลสู่เวทีโลก
.
ชมขั้นตอนการย้อมด้วยมือแบบดั้งเดิม จนเป็นเสื้อย้อมครามที่มีเอกลักษณ์ได้ที่ รายการผจญไทย EP.2.1 ‘LCFC x atmos’ (https://youtu.be/LEL-GBFyLKo) และอุดหนุนสินค้าจากภูมิปัญญาท้องถิ่น จ.สกลนคร ได้ที่ www.atmos-bangkok.com เเละ www.kingpower.com